Tag

วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ปลูกต้นไม้ใหญ่ ตกแต่งบ้าน

การปลูกต้นไม้ใหญ่ ตกแต่งบ้าน
ต้นไม้ใหญ่ถ้าเป็น โบราณเขาจะว่าห้ามปลูกเลย แต่สมัยใหม่นี่ต้องมีเหตุผลหน่อย อย่างไม้ต้องห้าม ที่เป็นต้นไม้ที่ห้ามปลูกในเขตบ้าน เขาจะห้ามปลูกต้นไม้ใหญ่ คร่อมหลังคา เพราะกิ่งก้านสาขามันจะหักลงมาทำหลังคาเสียหาย หรือไม้ใหญ่อายุมาก รากไม่แข็งแรง อาจล้มทับบ้านพังเลยก็ได้ เป็นข่าวบ่อยๆเวลามีพายุฝน
ส่วนไม้ประเภท ต้นโพ ไทร ไกร กร่าง หางนกยูง ชมพูพันธุ์ทิพย์ เหลืองอินเดีย
พวกนี้เป็นพวกรากลอย ชอนไช ปลูกใกล้อาคารจะทำความเสียหายให้ได้
ไม้มะกอก มะขามเทศ สลัดได หวาย ต้นตาล นี่เขาก็ห้าม แต่ก็ไม่ค่อยเห็นคนปลูกกันอยู่แล้ว
นอก จากนี้พวก ต้นโศก อโศกอินเดีย ลั่นทม เป็นไม้ที่ชื่อไม่เป็นมงคล ก่อนนี้ก็ไม่มีใครยอมปลูก แต่ต้นใบดอกมันสวยดี มาสมัยนี้เปลี่ยนชื่อซะใหม่ ก็กลายมาฮิตได้
ผังปลูกต้นไม้นี่ผมเขียนรวมหลายประเด็น อย่างแรกตามทิศต่างๆจะมีชื่อไม้ที่โบราณ แนะนำให้ปลูก อย่างที่สองผมกำหนดตัวบ้านอย่างสมมุติเอา แต่ตามความนิยม คือให้หน้าบ้านกว้างหน่อย และอยู่ทิศเหนือใต้ การแสดงทิศตะวันออก-ตก ก็เพื่อให้เห็นการปลูกต้นไม้บังแดด ส่วนทิศใต้ก็ไม่ควรปลูกต้นไม้พุ่มทึบ เพราะจะเป็นแนวลม ถ้าบ้านใครไม่ได้หันหน้าบ้านออกทิศเหนือแบบในตัวอย่าง แต่เรื่องทิศทางก็ต้องใช้หลักเดียวกัน ดูทิศออก-ตก เป็นหลัก
-อโศกน้ำ พุ่มหนาทึบมาก
-พญาสัตตบรรณ สูงโปร่ง ทรงสวยสง่า
-ประดู่บ้าน ต้นยังเล็ก แต่ปกติดอกจะไม่มากแบบนี้
-สาเก ต้นใหญ่ ใบใหญ่ ลูกกินได้ แต่แสลงสำหรับใครบางคน
ส่วน ไม้ที่ควรปลูก ผมจะแบ่งประเภทเป็นการปลูกไม้ตามวัตถุประสงค์ จะกล่าวถึงไม้ยืนต้น หรือไม้ใหญ่ก่อน เพราะไม้ใหญ่จะเป็นหลัก ปลูกแล้วปลูกเลยปลูกได้ทีเดียว แล้วก็จะอยู่ยาวไป ชั่วลูก ชั่วหลาน ไม่มีการย้ายไปย้ายมาเหมือนไม้ประดับ หรือไม้กระถาง ไม้ใหญ่แบ่งเป็นประเภทง่ายๆตามวัตถุประสงค์ที่จะใช้งานเขาคือ
1. ปลูกให้ร่มเงา พวกต้นไม้ใหญ่ต่างๆ ที่มีใบและพุ่มหนา เป็นไม้ไม่ผลัดใบ จะได้ร่มเงาตลอดทั้งปี กิ่งก้านแข็งแรง ไม่หักเปราะง่าย ใช้ปลูกริมรั้ว หรือนอกรั้ว อย่าปลูกชิดบ้านมาก เอาไว้ด้านทิศตะวันตกมากหน่อย คอยบังแดด ปลูกทิศใต้น้อยหน่อยเพราะจะบังลม มีหลายชนิดเช่น ประดู่ พญาสัตตบรรณ กันเกรา แสงจันทร์ สน สารภี สาเก ใบใหญ่เป็นแฉกสวยดี ลูกก็กินได้ หรือพวกผลัดใบเช่นจามจุรี หูกวาง เวลาผลัดใบที กวาดกันทั้งวัน จึงไม่ค่อยนิยม
2. ปลูกเอาลูกกิน อันนี้จัดเป็นที่นิยมของคนไทยมาก ยอดนิยมอันดับ 1 ก็ต้องยกให้มะม่วง หาพันธุ์ดีๆหน่อย ถ้าเป็นพวกทวายก็ดี ออกลูกปีละหลายครั้ง ขนุนปลูกไว้หลังบ้าน พันธุ์ไพศาลทักษิณ เนื้อกรอบหวานอร่อยมาก หายากหน่อย แล้วก็ได้หนุนในเรื่องสิริมงคลด้วย มะยมปลูกหน้าบ้าน นี่ก็ลูกดก ออกตลอดปี ทำกวนกินได้เรื่อยๆ ปลูกนอกรั้วก็ได้ และปลูกได้ทั่วไป ส่วนไม้ผลอื่นๆถ้าปลูกนอกพื้นที่ ที่เขาชอบ ก็ไม่ค่อยออกลูกให้กิน ไม้ผลนี่ปลูกในบริเวณบ้านหน่อย ถ้ากลัวชาวบ้านช่วยสอยไปกิน จะได้ไม่ทะเลาะกัน
-แปลงล้างขวด ดอกก็เหมือนแปรงล้างขวดนั่นแหละ ออกดอกทั้งปี
-ต้นหลิว ปลิวไสว เพราะกิ่งมันอ่อน ลู่ตามลมได้ ปลูกตามริมน้ำก็ดี
3. ปลูกดูสวยงาม พวกไม้ยืนต้นดอกสวยนี่มีเยอะพอสมควร ถ้าบ้านบริเวณกว้างๆ จะแนะนำให้เลือกหาหลายๆพันธุ์ผสมกัน ปลูกสลับตามฤดูกาล เช่น ไม้ดอกหน้าร้อน พวกราชพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ เหลืองอินเดีย ชมพูพันธุ์ทิพย์ หางนกยูงฝรั่ง อินทนิลน้ำ
ออกดอกหน้าหนาวก็พวก สุพรรณิการ์ ดอกใหญ่สีเหลือง , ศรีตรังใบเล็กๆคล้ายมะขาม ดอกเป็นช่อสีม่วงแต่โตช้าหน่อย , ทองหลางด่างใบสวย , เสลา , ดอกสีชมพูอมม่วง , แคฝรั่ง เป็นต้น
ที่ ออกทั้งปีก็มีเช่นแปรงล้างขวด ใบยาวรีสวย พุ่มไม่ใหญ่มาก หรือใบคล้ายกันแต่ไม่มีดอกก็ต้นหลิวแบบจีน กิ่งอ่อนจะลู่ลม ได้บรรยากาศดี ถ้าทำตามนี้ได้ทั้งหมด ก็จะได้ดูดอกไม้ พลัดกันมาบานให้เราได้ดูกันทั้งปีเลย เปลี่ยนบรรยากาศไม่ให้ซ้ำซาก จำเจ
การ ปลูกไม้ดอกนี่จะมีเทคนิคเล็กน้อย คือควรปลูกนอกรั้ว หรือแยกจากพวกไม้ประดับคลุมดิน เพราะการให้น้ำไม่เหมือนกัน เวลาเราขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด จะเห็นไม้ดอกริมทางออกดอกเต็มต้นสวยงาม แต่ทำไมที่เราปลูก ดอกมันน้อย มีแต่ใบ เพราะมันได้น้ำเยอะเกินไปนั่นเอง ถ้าปลูกรวมกับไม้ประดับเราก็ต้องให้น้ำต้นมันมากตามไม้ประดับ ถ้าให้น้อยไม้ประดับก็จะเหี่ยวง่าย การควบคุมปริมาณน้ำทำได้ยาก
-กัลปพฤกษ์ ให้เทวดาเลี้ยงนี่ ดอกจะสวยมาก
-ชัยพฤกษ์ ทรงก็จะบานออกหน่อย แต่ไม่สูง
-ตะแบกนา ต้นยังเล็ก
-เสลา ต้นจะสูง
-อินทนิลน้ำ ก็ไม่สูงมาก (คือโตแล้วก็ไม่สูง)
พวก ปาล์มชนิดต่างๆก็เป็นไม้ใหญ่ยืนต้นประเภทหนึ่ง แต่ไม่ค่อยได้พึ่งร่มเงา พวกปาล์มมักจะปลูกเพื่อความสง่างามมากกว่า โดยปลูกเป็นแนว 2
ข้างถนน หรือริมสนาม เช่นปาล์มขวด ปาล์มน้ำมัน แต่ผมไม่ค่อยชอบ ถ้าใครชอบพวกปาล์มก็ควรเลือกพันธ์เล็กๆหน่อยมาใช้เป็นพวกไม้ประดับดีกว่า เช่นปาล์มหางกระรอก หรือพวกหมากต่างๆ
4. ปลูกเอากลิ่นหอม พวกไม้ใหญ่นี่มีน้อย แต่นิยมปลูกเพราะทรงสวย พุ่มสวย ลำต้นก็สวย คือต้นปีบ หรือต้นพิกุล พุ่มกลมทึบ นอกนั้นออกดอกไม่ค่อยมีกลิ่นหอมนัก ต้องอาศัยไม้เลื้อยหรือไม้เล็ก ที่นิยมและปลูกง่าย ทรงสวย ได้แก่โมก ต้นแก้ว ราตรี กระดังงา หรือการเวกเป็นไม้เลื้อย ทำซุ้มประตูก็ดี เพราะใบหนาทึบ โตเร็ว ดอกหอม แต่ต้องทำซุ้มที่แข็งแรงหน่อยเพราะมันโตเอาโตเอา จริงๆ
5. เอาทั้ง 4 ข้อเลย ถ้ามีที่กว้างๆนี่ สามารถปลูกได้ทุกอย่างก็ปลูกมันเยอะๆเลยครับ ให้ความร่มเย็น ผลิตออกซิเจน อาหารตา อาหารใจ ปลูกสลับกันก็ได้ เช่นปลูกมะม่วงเป็นแนวหน้าบ้าน แต่มุมข้างประตูก็ปลูกไม้ดอกสวยๆ เน้นประตูทางเข้า ต้อนรับแขก จินตนาการเอาบ้างครับ หรือขุดทำส่วนที่เป็นน้ำเป็นสระหรือคูสลับด้วยก็ดี เพิ่มความสวยงาม และให้ธรรมชาติเลี้ยงดูกันเอง ไม่ง้อฟ้าฝน หรือบางครั้งการปลูกต้นไม้ก็เพื่อปิดบังส่วนที่เราไม่อยากเห็นได้เช่นกัน อย่างเช่นบ้านอยู่หลังตึกแถวเก่าๆรกๆ ต้องทนดูอยู่ทำไมปลูกต้นไม้บังเสีย หรือไม้พุ่มทึบๆ ถ้าปลูกเป็นแนวริมถนนก็ช่วยกรองฝุ่นละอองได้ดี
ผม เน้นเรื่องเทวดาเลี้ยง หรือธรรมชาติเลี้ยงด้วยอย่างหนึ่ง เพราะเดี๋ยวนี้ คนสวนหายาก หรือพวกรับจ้างตามหมู่บ้านก็เล่นตัวกันพอสมควร ตามตัวยาก คิดค่าแรงแพง บางทีก็ทำไม่ทั่ว การปลูกต้นไม้ที่เจ้าของดูแลเองไม่ได้ ถ้าไม่มีเงินเยอะจริงๆ แล้วไม่ค่อยแนะนำ เรื่องที่จะต้องคอยตัดแต่งดูแลสม่ำเสมอนั้น ต้องคนปลูกที่ใจรัก และมีเวลาทำเองได้ด้วย สวนถึงจะไม่โทรม เพราะต้นไม้มันมีชีวิต มันโตขึ้นทุกวัน แล้วมันก็เหี่ยวเฉาได้ ต้นไม้มันปรับเปลี่ยนและปรับตัวตามสภาพแวดล้อมของมันเอง การทำสวนในแนวสวนป่า จะเหมาะกับแนวความคิดนี้เพราะเป็นการทำให้เลียนแบบธรรมชาติ ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาแก่ต้นไม้เล็ก ต้นไม้เล็กคลุมดินให้ความชุ่มชื้น เป็นวัฏจักรของธรรมชาติ การลงต้นไม้ใหญ่ก็ควรจะลงหน้าฝน น้ำจะได้ชุ่มๆ เพราะถ้าไปลงหน้าหนาวหรือหน้าร้อน ต้องคอยรดน้ำให้ดีจนกว่ามันจะแข็งแรง โตพอช่วยตัวเองได้
-สุพรรณิการ์ หรือฝ้ายคำ จะมีอย่างธรรมดา และกลีบซ้อน หนา
-เหลืองอินเดีย ต้นเล็ก ตอนไม่ออกดอกก็ใบพุ่มสวย
การเลือกซื้อต้นไม้การ หาซื้อ ถ้าได้ไม้ใหญ่เลยก็ดี โตเร็วทันใจ ไม่ต้องรอนาน แต่มีข้อเสียคือ เขาขุดมาเลี้ยงไว้ก่อนให้ฟื้นตัว จะไม่มีรากแก้ว เวลาปลูกต้องทำค้ำยันโคนไม้ให้แข็งแรง แน่นหนา อย่าให้โยกเยก จะตาย ไม่ติด เพราะมีลมพัดอยู่ตลอดไม่ได้ตั้งอยู่เฉยๆ แต่ถ้าใช้ไม้ต้นเล็กมาปลูก เขาเพาะเมล็ด มีรากแก้ว ก็จะยึดเกาะดี แข็งแรง แต่โตช้า ไม่ทันใจ ไม้ใหญ่เวลาลงส่วนใหญ่คนขายจะมาลงให้และรับประกันว่าไม่ตาย ถ้าซื้อมาลงเองก็ดูดีๆหน่อย ผมเคยเจอ ซื้อปีบต้นใหญ่มาลง ปลูกแล้วไม่ฟื้น พอขุดเปลี่ยนต้นใหม่ ถึงเห็นว่าคนงานไม่ได้แกะเอาถุงพลาสติกออก รากมันเลยเน่าตาย
อีกอย่างหนึ่ง การเลือกซื้อไม้พันธุ์ต้นเล็กควรดูร้านที่ไว้ใจได้ เรื่องต้นไม้ เพราะไม้เล็กบางประเภทใบจะคล้ายกันมาก ดูยาก เคยซื้อผิดมา 2 พันธุ์แล้ว จะซื้อหางนกยูงฝรั่ง ดันได้อะไรไม่รู้ ไม่ออกดอกให้ดูเลย หรือพวกตะแบก อินทนิลน้ำ กับเสลานี่ ใบและดอกคล้ายๆกัน แต่เสลาจะเป็นไม้สูงกว่า นี่ก็ได้มาผิด เราจะเอาเสลา แต่ได้อินทนิลน้ำ ปลูกตั้งนาน ไม่สูงซักที เลยไม่รู้ว่าคนขายรู้จริง หรือแกล้งโง่กันแน่
-ปีบ มีสีขาว และสีทอง กลิ่นหอมมาก ปลูกทางทิศใต้ก็ดี กลิ่นจะหอมเข้าบ้านเลย
-ทองหลางด่าง ต้นมีหนามแต่ใบลายสวย ออกดอกก็สวย
-หมากเขียว และหมากต่างๆรวมทั้งปาล์มจะปลูกประดับมากกว่า หวังร่มเงาไม่ได้ ใช้ปลูกเสริมต้นไม้ใหญ่
การกำหนดตำแหน่งปลูกการ วางระยะห่างของต้น ต้องมีความรู้พอสมควรว่า ไม้ต้นนั้นทรงเป็นแบบไหน พุ่มใหญ่พุ่มเล็ก ถามคนขายก็ได้ ถ้าพุ่มเล็กทรงสูงก็ปลูกชิดหน่อยได้ ประมาณสัก 6 เมตร แต่ถ้าพุ่มกว้าง แผ่ออก ก็ต้องวางห่างหน่อย ประมาณ 8-10 เมตร ขึ้นไป บางทีปลูกต้นไม้ลืมนึกถึงตอนมันโต พอ 2-3 ปี มันขึ้นเบียดกันหมด บางทีก็ต้องตัดทิ้งก็มี
ในกรณีที่เรายังไม่ได้ ปลูกบ้าน แต่อยากปลูกต้นไม้ไว้ก่อน อย่างน้อย เราก็ควรจะวางผังคร่าวๆ ว่าตำแหน่งตัวบ้านจะตั้งอยู่ตำแหน่งไหน กว้างยาวเท่าใด ส่วนมากที่เห็นจะเหลือที่ด้านหน้ามากหน่อย เพื่อเป็นที่โล่งหรือสนาม ตัวบ้านก็จะดูสง่างาม ตันไม้ใหญ่ก็จะปลูกรอบๆตามแนวรั้ว อยู่ในบ้านก็จะมีมุมมองพอสมควร

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ดอกชมจันทร์ เป็นทั้งไม้ประดับและอาหาร

ดอกชมจันทร์ หรือ ดอกพระจันทร์
ดอกชมจันทร์ เป็นทั้งไม้ประดับและอาหาร
ดอกชมจันทร์ หรือ ดอกพระจันทร์ ในบางพื้นที่อาจเรียกว่าดอกบานดึก ที่มาของชื่อนี้คาดว่าเรียกตามช่วงเวลาการบานของดอก คือ ดอกจะบานในช่วงกลางคืนประมาณ 19.00-20.00 น. เป็นต้นไป
ดอกชมจันทร์ เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนของทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้ และแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง สามารถพบได้ทั้งในเขตอบอุ่นและเขตร้อนของอเมริกา ประเทศออสเตรเลีย และในกลุ่มประเทศเขตร้อนของทวีปเอเชีย พืชในสกุลนี้มีประมาณ 650 ชนิด ซึ่งมีมากที่สุดในวงศ์ หลายชนิดเป็นไม้ประดับที่รู้จักกันดีคือมอร์นิ่งกลอรี่หรือผักบุ้งฝรั่ง และบางชนิดสามารถรับประทานได้ ที่รู้จักกันดี เช่น ผักบุ้ง และมันเทศ เป็นต้น นอกจากนี้บางชนิดในต่างประเทศใช้เป็นยาสมุนไพร
ดอกชมจันทร์ ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด อาจปลูกโดยการหยอดเมล็ดลงแปลงโดยตรง หรือเพาะเป็นต้นกล้า ก่อนเพาะนำเมล็ดมาแช่ด้วยน้ำนาน 12 ชั่วโมง เพื่อให้เปลือกหุ้มเมล็ดอ่อนตัว จะทำให้งอกได้เร็วขึ้น เนื่องจากเมล็ดดอกชมจันทร์มีเปลือกหุ้มเมล็ดที่แข็ง เมล็ดงอกใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน เมื่อต้นกล้าอายุ 30 วัน สามารถปลูกลงแปลงได้ นอกจากการขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดแล้วต้นดอกชมจันทร์ยังสามารถขยาย พันธุ์โดยการปักชำส่วนของลำต้น
ต้นดอกชมจันทร์สามารถขึ้นได้ในดินเกือบทุกชนิดที่มีความร่วนซุย พื้นที่ปลูกต้องระบายน้ำได้ดี เจริญเติบโตได้ในสภาพกลางแจ้งที่มีแสงแดด แปลงปลูกอาจจะยกแปลงขึ้นคล้ายกับแปลงผักทั่วไปเพื่อป้องกันน้ำขัง วิธีปลูกโดยขุดหลุมปลูกลึก 15-20 ซม. รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก 200-500 กรัมต่อหลุม จากนั้นจึงนำต้นกล้าลงปลูก ระยะปลูกที่ใช้คือ ระหว่างต้น 40-50 ซม. และระหว่างแถว 70-100 ซม. ในช่วง 1 เดือนแรก หลังปลูกควรมีการให้น้ำวันละ 2 ครั้ง คือ ตอนเช้าและตอนเย็น เมื่อต้นสามารถตั้งตัวได้แล้ว จึงให้น้ำวันละครั้ง เมื่อต้นดอกชมจันทร์เริ่มแตกยอดอ่อนควรมีการทำค้างเพื่อให้ต้นเลื้อยขึ้น โดยทำค้างคล้ายกับค้างถั่วฝักยาวหรือทำเป็นซุ้ม หลังปลูกประมาณ 2-3 เดือน ก็จะเริ่มออกดอก ต้นดอกชมจันทร์มีดอกสีขาวสวยงาม จะบานในเวลาตอนกลางคืน และมีกลิ่นหอม ในต่างประเทศ เช่น ในยุโรป และสหรัฐอเมริกาปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ แต่บางพื้นที่ของประเทศไทย เช่น ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มมีการนำดอกมารับประทานเป็นอาหารโดยใช้ดอกตูมมาผัดกับน้ำมันหอย หรือลวกจิ้มกับน้ำพริก ผลจากการวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการของดอกชมจันทร์ พบว่าเป็นผักที่มีไขมันต่ำมากและมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อน ๆ เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้ยังมีธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส และยังประกอบด้วยวิตามินต่าง ๆ ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินบี เป็นต้น ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ สถานีวิจัยลำตะคอง วว. เลขที่ 333 หมู่ 12 ถนนมิตรภาพ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130 โทร. 0-4439-0107, 0-4439-0150, 08-1999-4770 โทรสาร 0-443-90150 อีเมล : lamtakhong@tistr. or.th, momtree_k@tistr.or.th
dailynews

สรรพคุณทางยาของอ้อยแดง

อ้อยแดง
อ้อยแดง หรือ SUGARCANE, SACCHARUM OFFICINARUM LINN. อยู่ในวงศ์ GRAMINEAE เป็นอ้อยที่นิยมปลูกกันตามหัวไร่ปลายนามาแต่โบราณแล้ว เพื่อใช้ประโยชน์ทางยาเท่านั้น เนื่องจากเปลือกต้นของ “อ้อยแดง” มีรสขม และ น้ำที่ได้ก็ไม่หวานแหลมนัก หากปลูกเพื่อปอกเปลือกแล้วควั่นเป็นข้อขายไม่มีคนซื้อรับประทานอย่างแน่นอน ลำต้นสูง 2-5 เมตร เปลือกต้นเป็นสีม่วงแดงจนเกือบดำ มีไขสีขาวปกคลุม ไม่แตกกิ่งก้าน ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปรียาว ปลายแหลม โคนเรียว และเป็นกาบหุ้มลำต้น ผิวใบจะเป็นสีม่วงอ่อนปนสีม่วงเทา ดูแปลกตามาก
ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด ดอกเป็นสีขาว “ผล” ขนาดเล็ก มักเป็นผลแห้ง ไม่แตกอ้า ภายในมีเมล็ด ขยายพันธุ์ด้วยวิธีปักชำต้น มีชื่อเรียกอีก คือ อ้อยขม และ อ้อยดำ ชาวจีนนิยมใช้ “อ้อยแดง” ทั้งต้นผูกติดหน้ารถยนต์ที่จะนำตัวเจ้าสาวไปส่งให้บ้านเจ้าบ่าว ถือว่าเป็นมงคลกับคู่แต่งงานเป็นยิ่งนัก ซึ่งอ้อยมีหลายสายพันธุ์ จะมีความแตกต่างกันที่ความสูงของต้น ความยาวระหว่างข้อ และสีของลำต้น แต่ละพันธุ์ยังมีรสชาติต่างกันอีกด้วย
ประโยชน์ทางยา ตำรายาไทย ใช้ลำต้นเป็นยาขับปัสสาวะ โดยใช้ลำต้นสด 70-90 กรัม หรือลำต้นแห้ง 30-40 กรัม หั่นเป็นชิ้นเล็กต้มกับน้ำจนเดือด แบ่งดื่มวันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร แก้ไตพิการ หนองใน ขับนิ่ว และยังใช้ขับเสมหะได้ด้วย ตำรายาโบราณบอกว่า เอาทั้งต้นของ “อ้อยแดง” แบบสด หรือเผาไฟนำไปหีบหรือคั้นเอาเฉพาะน้ำ ซึ่งมีรสหวานขม มีกลิ่นหอมเมื่อถูกเผา กินเป็นยา แก้เสมหะ หืด ไอ แก้ไข้สัมปะชวน ทั้งต้นควั่นตากแห้งต้มน้ำกินแก้ปัสสาวะพิการ แก้นิ่ว ขัดเบา ช้ำรั่วได้ ตา ของ “อ้อยแดง” จะมีรสขมกว่าเปลือกเยอะ นิยมนำไปปรุงเป็นยาแก้ตัวร้อน ดับพิษตานซางในเด็ก และบำรุงธาตุ ทำให้เกิดกำลังดีมาก ใครต้องการต้น “อ้อยแดง” ไปปลูก ลองติดต่อ “คุณพร้อมพันธุ์” ตามสถานที่ที่กล่าวข้างต้น อาจจัดหาให้ได้ครับ.

นายเกษตร


วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

พันธุ์มะนาวที่นิยมปลูก

มะนาว
“รวมมิตรมะนาวดี” ปลูกคุ้ม
พอเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน หลายคนเสาะหามะนาวพันธุ์ดีๆไปปลูกและขอให้แนะนำสายพันธุ์เจ๋งๆในคอลัมน์บ้าง ซึ่งความจริงแล้วมะนาวสายพันธุ์ดีๆ ที่ผู้ปลูกต้องการนั้นเคยเสนอในคอลัมน์ไปเกือบทุกชนิดแล้ว แต่เมื่อผู้อ่านไทยรัฐเรียกร้อง ประกอบกับพบว่าผู้ขายกิ่งตอนมะนาวพันธุ์เยี่ยมๆ นำสายพันธุ์ออกวางขายมากมายอยู่ในเวลานี้ พร้อมกับมีผลจริงๆของแต่ละสายพันธุ์โชว์ให้ผู้สนใจได้ทดลองชิมรสชาติอีกด้วย จึงรีบ “รวมมิตรมะนาวดี” ปลูกแล้วคุ้มค่าลงในคอลัมน์อีกครั้งทันที
ผลมะนาว ที่ผู้ขายกิ่งพันธุ์มะนาวนำไปวางรวมกันโชว์บนจานเท่าที่สังเกต มีด้วยกัน 4 สายพันธุ์ เริ่มจาก มะนาวแป้นพิจิตร มะนาวแป้นจริยา มะนาวแม่ไก่ไข่ดก และ มะนาวน้ำหอมทูลเกล้าไม่มีเมล็ด ทั้ง 4 สายพันธุ์ถือเป็นมะนาวเด่นที่ได้รับความนิยมปลูกอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน เคยแจกแจงรายละเอียดในคอลัมน์ไปทุกพันธุ์แล้ว บางพันธุ์มีผลทะวายหรือตลอดปี ให้น้ำเยอะ รสเปรี้ยวจัด ติดผลดก แต่ละพันธุ์ที่กล่าวข้างต้นปลูกแล้วคุ้มค่ามาก โดยเฉพาะมะนาวแป้นพิจิตร เป็นพันธุ์ใหม่ล่าสุดที่นักวิชาการเกษตรบำรุงพันธุ์ให้ทนทานต่อโรคแมลงทุก ชนิด และยังสามารถติดผลดกในช่วงฤดูแล้งที่ผลมะนาวมีราคาแพงด้วย เกษตรกรในปัจจุบันจึงนิยมปลูกมะนาวสายพันธุ์ แป้นพิจิตรอย่างแพร่หลาย
ส่วนมะนาวแป้นจริยา มีความโดดเด่นตรงเวลาติดผลจะเป็นพวงเกินกว่า 5 ผลขึ้น และที่เป็นจุดดีอีกอย่างได้แก่ เปลือกผลของมะนาวแป้นจริยาจะบางมาก จึงทำให้มีน้ำเยอะรสชาติเปรี้ยวและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มะนาวแม่ไก่ไข่ดก จะติดผลกระจายทั่วทั้งต้นได้ดีและสม่ำเสมอ แม้จะไม่เป็นพวงแต่จะให้ผลดกมาก มีรสเปรี้ยวใกล้เคียงกับน้ำมะนาวแป้นทั่วไป สุดท้าย มะนาวน้ำหอมทูลเกล้าไร้เมล็ด มีลักษณะเด่นคือ ผลขนาดใหญ่ เมื่อโตเต็มที่เกือบเท่าลูกเทนนิส เป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ผู้ปลูกนิยมปลูกกันมาก เนื่องจากให้น้ำเยอะ เวลาติดผลดกทั้งต้นจะคุ้มค่ายิ่งนัก ซึ่งมะนาวดีทั้ง 4 สายพันธุ์มีกิ่งตอนขายที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ แผง “คุณภิญโญ” ตรงกันข้ามกับโครงการ 13 มีผลจริงของแต่ละสายพันธุ์ให้ดูและทดลองชิมด้วย ราคาสอบถามกันเอง ส่วนใหญ่เป็นต้นเสียบยอด จะทำให้ ใช้เวลาปลูกเพียง 8-10 เดือน สามารถติดผลให้เก็บใช้ประโยชน์ได้
ส่วนอีก 2 สายพันธุ์ ที่อยากแนะนำให้ปลูกได้แก่ มะนาวด่านเกวียน กับ มะนาวพวง ทั้งสองชนิดมีรูปทรงของผล น้ำจากผล ผิวผลคล้ายกับ “เลมอน” ของฝรั่งมาก เวลาติดผลจะเป็นกระจุกแน่นเกิน 10 ผล ต่อพวงน่าชมมาก ที่สำคัญจะติดผลตลอดปีครับ.
ดอกสะแบง

มะนาวแป้นพิจิตร 1 ต้านทานโรค

มะนาวพันธุ์พิจิตร 1
มะนาว พันธุ์ นี้เป็นสายพันธุ์ที่เกิดจากการผสมของ มะนาวแป้นรำไพ กับ มะนาวน้ำหอมอุดร โดยนักวิชาการของศูนย์วิจัยพืชสวนท่านหนึ่ง แล้วได้ลูกไม้เป็นมะนาวพันธุ์ใหม่ล่าสุดขึ้นมา และตั้งชื่อว่า “มะนาวพันธุ์พิจิตร 1” หรือ “มะนาวแป้นพิจิตร 1” ซึ่งจุดประสงค์ของการผสมพันธุ์มะนาวพันธุ์นี้ขึ้นมา ก็เพื่อให้ได้มะนาวพันธุ์ใหม่ที่มีความทนทานต่อ “โรคแคงเกอร์” ได้สูง เนื่องจากการปลูกมะนาวทั่วไป เกษตรกรส่วนใหญ่มักเจอปัญหาของโรคดังกล่าวลง เล่นงานผลมะนาวขณะ กำลังติดผล ต้องใช้สารเคมีฉีดป้องกันเป็นประจำ ทำให้ต้องเพิ่มต้นทุนและรายจ่ายในการดูแลมากขึ้น ส่งผลให้มะนาวมีราคาแพงขึ้นเป็นเงาตามตัว

มะนาวพันธุ์พิจิตร 1 หรือ “มะนาวแป้นพิจิตร 1” ได้ทดลองปลูกจนติดผลแล้ว ปรากฏว่ามีข้อเด่นคือติดผลดกมาก และ ที่สำคัญเป็นมะนาวที่มีความทนทานต่อการถูก “โรคแคงเกอร์” ลงเกาะกินผลได้ดีกว่ามะนาวสายพันธุ์ทั่วไป ผลมีขนาดใหญ่ เปลือกผลค่อนข้างบาง ให้น้ำเยอะ มีรสเปรี้ยวจัด จึงทำให้ “มะนาวพันธุ์พิจิตร 1” หรือ “มะนาวแป้นพิจิตร 1” ได้รับความนิยมปลูกกันแพร่หลายในปัจจุบัน โดยเฉพาะเกษตรกรทางภาคใต้ และประเทศมาเลเซีย เนื่องจากเป็นมะนาวปลูกง่าย และทนต่อโรคได้ดีนั่นเอง

มะนาว พันธุ์พิจิตร 1 หรือ “มะนาวแป้นพิจิตร 1” อยู่ในวงศ์ RUTACEAE เป็นไม้พุ่มสูง 2-4 เมตร กิ่งอ่อนมีหนาม ใบเป็นใบประกอบชนิดมีใบย่อยใบเดียว ออกเรียงสลับเป็นรูปรีหรือรูปไข่แกมขอบขนาน เนื้อใบมีจุดน้ำมันกระจายทั่ว ก้านใบมีครีบเล็กๆ สีเขียวเข้ม ใบเมื่อขยี้จะมีกลิ่นหอม

ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยวๆ หรือเป็นช่อตามซอกใบและปลายยอด กลีบดอกเป็นสีขาว มีกลิ่นหอมแบบสะอาดๆ ชื่นใจดี กลีบดอกร่วงง่าย
ผล เป็นรูปทรงกลมกึ่งแป้น ก้นผลตัดเรียบ เนื้อในฉ่ำน้ำ เปลือกผลค่อนข้างบาง เมล็ดมีน้อย ให้น้ำเยอะ รสเปรี้ยวจัด น้ำมีกลิ่นหอม ขนาดของผลมีขนาดใหญ่กว่ามะนาวทั่วไปชัดเจน ติดเป็นพวง 3-5 ผล ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและตอนกิ่ง

“มะนาวพันธุ์พิจิตร 1” หรือ “มะนาวแป้นพิจิตร 1” ปลูกได้ ในดินทั่วไป สามารถปลูกลงกระถางขนาดใหญ่และมีผลได้ หลังปลูกบำรุงปุ๋ยขี้วัวหรือขี้ควายแห้งโรยรอบโคนต้นเดือนละครั้ง เพียงพอที่จะทำให้มีผลดกและผลใหญ่ได้ครับ.

ที่มา: http://www.thairath.co.th